วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557
Cloud
Cloud
Cloud คือการทำงานร่วมกันของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก โดยแบ่งชั้นการประมวลผลออกจากชั้นเก็บข้อมูล ซึ่งการแบ่งนี้แต่ละที่อาจจะแบ่งได้หลายชั้นซึ่งขึ้นอยู่กับการ Design ในแต่ละองค์กร
1. ชั้นการประมวลผล (Computing layer) เป็นการร่วมกันทำงานของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก หากมีเซิร์ฟเวอร์ใดเสียหาย ก็จะไม่มีผลกับการใช้งานของผู้ใช้งานระบบ เพราะมันจะสวิทช์การทำงานไปยังเซิร์ฟเวอร์ตัวอื่นแทนโดยอัตโนมัติในทันที เว็บหรือเซิร์ฟเวอร์เสมือน หรือ ฯลฯ จะทำงานประมวลผลในชั้นนี้ ซึ่งระบบจะแบ่งทรัพยากร CPU, Memory ให้ตามจำนวนที่ท่านใช้งาน และแยกทรัพยากรกับงานอื่น ๆ หรือระบบอื่น ๆ อย่างชัดเจน พร้อมมี Firewall ป้องกันระบบของท่านจากผู้ใช้อื่นด้วย
2. ชั้นเก็บข้อมูล (Storage layer) เป็นการทำงานร่วมกันของระบบเก็บข้อมูลแบบ SAN (Storage network) ที่มีความเสถียร และความเร็วสูง โดยสามารถย้ายไปใช้งาน SAN (Storage network)สำรองได้ทันทีที่เกิดเหตุขัดข้องเสียหายของอุปกรณ์หลัก โดยส่วนใหญ่จะใช้ SAN (Storage network) อย่างน้อย 2 ตัว ซึ่งมีข้อมูลที่เหมือนกัน (Replicate) ตลอดเวลา ข้อมูลต่าง ๆ จะถูกเก็บไว้ที่ชั้นนี้
เครือข่ายเน็ตเวิร์คความเร็วสูง จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างชั้นการประมวลผล และชั้นเก็บข้อมูล เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างทันใจตลอดเวลา
ระบบ Cloud บางแบบยังรองรับการขยายหรือหดตัวโดยอัตโนมัติสำหรับเซิร์ฟเวอร์เสมือน เมื่อการใช้งานเพิ่มหรือลด ตามที่ได้กำหนดไว้
ดังนั้น ด้วยระบบ Cloud แท้จริง โดยการทำงานร่วมกันของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก และการแยกส่วนของการทำงานแบบเป็นระบบนี้ ทำให้การทำงานของเว็บหรือเซิร์ฟเวอร์เสมือน ไม่ติดขัดและมั่นใจได้ตลอดเวลา แตกต่างจากเว็บโฮสติ้ง หรือ เซิร์ฟเวอร์ธรรมดาทั่วไป ที่หากเกิดการติดขัดเสียหายของอุปกรณ์นั้น ๆ ก็จะทำให้การทำงานหยุดลงโดยไม่มีระบบทดแทน
ประโยชน์ของคลาวด์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ได้แก่ เพิ่มความคล่องตัว ลดค่าใช้จ่าย เสริมความยืดหยุ่น มีความปลอดภัยและพร้อมนำไปใช้งาน แต่ซีอีโอและผู้นำทางธุรกิจอาจต้องการพิจารณาด้านอื่นๆ ของการประมวลผลด้วยคลาวด์ที่จำเป็นให้ครบถ้วน ก่อนจะถึงกระบวนการพัฒนา เช่น ประเด็นด้านความปลอดภัย และการอินทิเกรตบริการคลาวด์เข้ากับระบบไอทีเดิมที่มีอยู่ เป็นต้น
เมื่อความต้องการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์มีเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ศูนย์คอมพิวเตอร์ต้องดูแลรักษาคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก หลาย องค์กรมองหาโซลูชั่นส์ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดภาระเรื่องการดูแลรักษา ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์อันเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขององค์กร ดังนั้น ระบบประมวลผลที่สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของยุค ปัจจุบัน
Cloud Computing เป็น Business Model รูปแบบใหม่ของการให้บริการด้านไอที เพราะ ด้วยรูปแบบการประมวลผลที่อ้างอิงกับความต้องการของผู้ใช้และวิธีการจัดเก็บ ค่าบริการตามการใช้งาน ภายใต้การทำงานของซอฟต์แวร์ที่สามารถเพิ่มและลดทรัพยากรได้ตามความเหมาะสม ด้วยวิธีการที่ไม่ยุ่งยากและไม่ซับซ้อน จะช่วยให้ท่านบริหารจัดการงานไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยประโยชน์ทางธุรกิจที่สำคัญของคลาวด์มีด้วยกันสองด้าน คือ ประโยชน์ด้านการเงิน และประโยชน์ด้านการตอบสนอง
ประโยชน์ด้านการตอบสนอง
คลาวด์ช่วยให้องค์กรมั่นใจในการตอบสนองตามความต้องการทางธุรกิจ ด้วย: ทรัพยากรสำหรับประมวลผลและระบบมีพร้อมใช้งานได้ทันทีตามความต้องการทางธุรกิจเข้าดึงคลาวด์ได้หลากหลายช่องทาง จึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลและแอพพลิเคชันจะพร้อมใช้งานได้จากทุกที่ทุกเวลา
การลดค่าใช้ของระบบ Cloud
ก็คงมาดูพื้นฐานของการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ว่าถ้าเรามีบริษัท หรือทำงานในบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 5-6 คน ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่มีหลายร้อยคน
สิ่งหนึ่งที่ปัจจุบันเราต้องมีก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ และเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องทำงานร่วมกัน เช่น
1. มีการรับส่งไฟล์ ใช้ไฟล์ร่วมกัน เช่นข้อมูลยอดขาย ข้อมูล stock สินค้า ไฟล์ presentation ต่างๆ
2. มีการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ ภายในองค์กร ตั้งแต่ ระบบ mail ระบบบัญชีการเงิน ระบบ crmก็จะเห็นว่าการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันภายในองค์กร จำเป็นต้องมีเครื่อง server และห้องคอมพิวเตอร์เก็บเครื่อง server โดยที่บริษัทที่มีขนาดใหญ่ จะมี server จำนวนมาก มีการลงทุนในระบบ server และห้อง data center นี้หลายล้านบาท ถือเป็น fixed cost ในการลงทุน หรือเรียกว่า capex เวลาเราทำงบประมาณ – capital expenditure
ดังนั้น แนวคิดของ cloud computing ส่วนหนึ่ง ก็จะเป็นการหาแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งแนวคิดเรื่องการลด Capex กับ Opexก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อะไร แนวคิดที่มีมานานหลายปีแล้วก็คือเรื่องของการ outsourcing หลักการโดยสรุปของ outsourcing มีอยู่ 2 ประเด็นใหญ่ๆ ก็คือ
การ แบ่งส่วนงานที่เราไม่เชี่ยวชาญ ไปให้มืออาชีพที่มีความรู้ด้านนี้มาทำแทนเรา แทนที่จะต้องเสียเงินไปจ้างพนักงานประจำเงินเดือนแพงๆ แต่ใช้งานได้ไม่คุ้มค่า เพราะเนื้องานที่ต้องทำมีไม่มากพอการลดการ ลงทุนเริ่มต้น ซึ่งในงานบางงานถ้าต้องทำเองเราอาจจะต้องมีการลงทุนเริ่มต้นด้วยเงินจำนวน มาก เราก็ใช้วิธีเช่าบริการจากหน่วยงานที่ให้บริการเฉพาะด้าน แล้วจ่ายเป็นค่าบริการรายเดือนไป เช่นการทำห้องเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งต้องลงทุนหลายล้านบาท ก็เปลี่ยนไปใช้บริการผู้ให้บริการ Data center ซึ่งเสียค่าเช่าต่อเดือนในระดับหมื่นบาท ก็จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายได้มาก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น